ปันผล vs ไม่ปันผล เลือกอย่างไร
ให้ตอบโจทย์กับเป้าหมายการเงิน

ผู้ลงทุนมือใหม่ที่ยังสองจิตสองใจ ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี กับการลงทุนในกองทุนรวม วันนี้น้องถั่วต้ม และกัปตัน ก.ล.ต.มีคำตอบ 😎

กองทุนรวม คือ การรวบรวมเงินของผู้ลงทุนหลายๆ รายมารวมกัน และมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารเงินก้อนนั้น โดยเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ตรงตามนโยบายกองทุน และช่วยบริหารจัดการเงินกองทุนให้ได้รับผลตอบแทนงอกเงยโดยผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมจะมาจาก 1) กำไรจากการขายหน่วยลงทุน (Capital gain) ซึ่งเกิดเมื่อเราขายคืนหน่วยลงทุน และมีมูลค่ามากกว่าตอนที่เราซื้อ โดยจะซื้อขายกันที่ราคา NAV ต่อหน่วย (Net Asset Value หรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม / จำนวนหน่วยลงทุน) ที่มีการคำนวณทุกสิ้นวัน และ 2) เงินปันผล ซึ่งจะได้เฉพาะกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

👉 กองทุนรวมแบบปันผล
ข้อดี ได้รับกระแสเงินสดเรื่อยๆ เป็น Passive income
ข้อเสีย ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 10% ทำให้ได้กำไรจากส่วนต่างราคาลดลง รวมทั้ง NAV ก็จะไม่ค่อยเพิ่มเท่าไหร่ เนื่องจากจะถูกปรับลดลงเมื่อกองทุนจ่ายเงินปันผล รวมทั้งส่วนต่างกำไร (Capital gain) ก็จะไม่เยอะมากเช่นกัน
เหมาะกับคนที่ต้องการกระแสเงินสด มีเงินใช้เรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่ถือครอง

👉 กองทุนรวมแบบไม่ปันผล
ข้อดี เป็นกองทุนแบบสะสมมูลค่า โดยนำกำไรจากผลการดำเนินการไปลงทุนต่อ มีโอกาสได้ผลตอบแทนก้อนโตในระยะยาว หากมีการขายกองทุนระหว่างทาง และได้ส่วนต่างกำไร (Capital gain) ไม่ต้องเสียภาษี
ข้อเสีย มูลค่าหน่วยลงทุนจะผันผวนไปตามราคาของสินทรัพย์ หากถือระยะสั้น อาจขาดทุนได้ และไม่สามารถขายทำกำไร รวมทั้งไม่มีกระแสเงินสดระหว่างถือครอง
เหมาะกับคนที่มีเงินเย็น ต้องการลงทุนระยะยาว ราวๆ 5 - 10 ปี ข้างหน้า และหวังจะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้นเมื่อขายคืน

กองทุนรวมเป็นหนึ่งในการลงทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนมือใหม่ เพราะใช้เงินลงทุนไม่มาก ไม่ต้องคอยติดตามสถานการณ์การลงทุน เนื่องจากมีมืออาชีพช่วยดูแล ทำให้ลงทุนได้แบบอุ่นใจ ซึ่งเพือนๆ จะเลือกลงทุนในกองทุนรวมแบบใด คงต้องขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนของตัวเองครับ 😉

#กลต #HowToลงทุน #การเงิน #การลงทุน #ผู้ลงทุนหน้าใหม่ #กองทุนรวม #เงินปันผล #ไม่ปันผล #สะสมมูลค่า

Written by admiral